แถวเกียรติยศ, วันชูโทรฟี่! 5 สิ่งที่คาดหวังจาก 4 เกมสุดท้ายของลิเวอร์พูล

สารบัญ

ทัพ “หงส์แดง” รั้งตำแหน่งจ่าฝูงตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน และไม่หล่นลงมาอีกเลย โดยผลงานชั้นยอดเหล่านี้ต้องยกเครดิตให้กับ อาร์เน่อ สล็อต และทีมงาน รวมทั้งบรรดาแข้งลิเวอร์พูล ที่รักษามาตรฐานชั้นยอดเอาไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา

สำหรับโปรแกรมที่เหลืออยู่อีก 4 เกมบรรดาสาวก “เดอะ ค็อป” คาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรกันบ้าง เพราะนี่จะเป็น 4 แมตช์ที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ที่บรรดาแฟนบอลพญาหงส์จะเข้าไปชมเกมในสนามทั้งเหย้า-เยือนด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข

ผลบอล สเปอร์ส 3-1 โบโด (1 พ.ค. 68) : จอห์นสัน–แมดดิสัน–โซลันกี้ พาไก่จ่อชิงยูโรปา
ผลบอล บิลเบา 0-3 แมนยู (1 พ.ค. 68) : บรูโน่ เหมา 2 พาผีถล่มคาบ้าน จ่อเข้าชิงยูโรปา
มาร์คัส แรชฟอร์ด ฮึดคืนสนามก่อนจบซีซั่น! สื่อแฉบินสู่ดูไบเยียวยาอาการเดี้ยง

1. แถวเกียรติยศและวันชูโทรฟี่แชมป์

เชลซี จะเป็นสโมสรแรกที่ต้องยืนตั้งแถวเกียรติยศเพื่อปรบมือให้เกียรติแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งแน่นอนว่าสาวก “เดอะ ค็อป” คงมีความสุขในการเดินทางไปยังกรุงลอนดอน

หลังจากแมตช์ดังกล่าว สโมสรต่อไปที่ต้องทำสิ่งนี้ก็คือ อาร์เซน่อล ทีมที่ขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กับ “หงส์แดง” ในซีซั่นนี้ โดยพวกเขาต้องตั้งแถวเพื่อปรบมือให้กับ ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ ซึ่งมันคงเป็นอะไรที่เปี่ยมไปด้วยความสุขสำหรับแฟนบอลหงส์แดงที่ได้เห็นภาพดังกล่าว

สำหรับเกมต่อไปต้องไปเยือน ไบรท์ตัน อาจจะไม่ได้ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล รู้สึกตื่นเต้นอะไรมากนัก เพราะพวกเขาน่าจะอิ่มเอมกับสิ่งที่ได้รับมาแล้วจากทั้งสองสโมสรที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งอย่างมากในช่วง  10 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ไฮไลท์สำคัญอยู่ในเกมสุดท้ายที่สนามแอนฟิลด์ เพราะพวกเขาต้องรับมือกับ คริสตัล พาเลซ แต่ฟันธงได้เลยว่าตลอดทั้งเกมสาวก “เดอะ ค็อป” คงร้องเพลงเชียร์แบบไม่กลัวหลอดลมอักเสบ เพราะสิ่งที่พวกเขารอก็คือเสียงนกหวีดหมดเวลา ซึ่งนั่นหมายความว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีมจะได้ชูโทรฟี่แชมป์อย่างเป็นทางการ

แล้วต่อจากนั้นล่ะ ? รถแห่สตาร์ทเครื่องได้เลย !!!

2. เต็มที่หรือแค่ประคองตัว

จากโปรแกรมที่เหลืออยู่แฟนบอลลิเวอร์พูลคงไม่ได้สนใจว่าทีมรักจะชนะหรือแพ้ แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากชนะให้หมดเพื่อเป็นการปิดจ็อบที่สมบูรณ์แบบ และคู่ควรกับคำว่าแชมป์ลีก 20 สมัย!!

ลิเวอร์พูล อาจจะมีการปรับทีมพอสมควรในช่วง 2-3 สัปดาห์ต่อจากนี้ แต่คาดว่าคงไม่ได้เปลี่ยนทีมแบบยกแผง เพราะนั่นอาจจะเป็นการแสดงความไม่ให้เกียรติกับคู่แข่งมากเกินไป 

ดังนั้นคงไม่ต้องแปลกใจหากจะได้เห็นนักเตะสำรอง และผู้เล่นดาวรุ่งบางคนได้รับโอกาสลงสนาม เพราะนอกจากจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้ว ยังเป็นการเพิ่มจำนวนลงแข่ง และทำให้พวกเขาได้รับเหรียญแชมป์ลีกด้วย 

ขณะที่ เชลซี ซึ่งต้องเจอกับแชมป์ในวันอาทิตย์นี้ คาดหวังว่าคู่แข่งของพวกเขาอาจจะมีการโรเตชั่น เนื่องจากทีมยังไม่พร้อมหลังฉลองกันอย่างเต็มที่ โดยทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” ต้องการชัยชนะทุกเกมที่เหลืออยู่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการจบฤดูกาลพร้อมกับได้โควตาไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

เพราะตอนนี้สถานการณ์ของทีมยังไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ ทั้ง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์, แอสตัน วิลล่า และ ฟูแล่ม สามารถพลิกสถานการณ์แซงหน้าพวกเขาได้ทันที ถ้าหากเก็บชัยชนะในเกมที่เหลืออยู่ได้หมด และ “สิงห์บลูส์” ดันฟอร์มสะดุด 

3.  แนวรับแปลกตาแต่ไม่แปลกใจ

อย่างที่ระบุเอาไว้ในข้อ 2 ว่า ลิเวอร์พูล คงมีการปรับทีมแน่นอน แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะที่แน่ๆ เราจะไดเห็น อลีสซง เบ็คเกอร์ ทำหน้าที่ยืนเฝ้าหน้าประตูเป็นมือ 1 อย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม แล้วตำแหน่งอื่นๆ ล่ะ ?

สำหรับแบ็กขวาคาดว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะได้ลงสนามต่อไป แม้นักเตะจะมีข่าวว่าเตรียมอำลาต้นสังกัดเพื่อไปเล่นให้ เรอัล มาดริด แบบฟรีเอเจนต์ในช่วงซัมเมอร์นี้ ส่วน คอเนอร์ แบรดลี่ย์ จะกลายเป็นตัวเลือกแรกหรือทีมซื้อแข้งใหม่เข้ามาเสริมทัพต้องรอดูกันต่อไป

แบรดลี่ย์ เป็นผู้เล่นแบ็กขวาที่มีสไตล์แตกต่างจาก “รองเทรนต์” แต่ผลงานของเขาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้ ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับ โค้ชอาร์เน่อ ให้ความมั่นใจในตัวนักเตะมากแค่ไหน

ขณะที่แบ็กซ้ายแน่นอนว่า 4 เกมสุดท้ายจะเป็นโอกาสของ คอสตาส ซิมิกาส ที่จะได้ลงไปแสดงผลงาน หลัง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กรำศึกหนักมาตลอดทั้งซีซั่น ส่วน จาเรลล์ ควอนซาห์ ก็มีลุ้นได้ลงตัวจริงในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กเช่นกัน 

4. ปรับกองกลาง, “คิงโม” ยืนหนึ่ง

ลิเวอร์พูล ใช้แผงมิดฟิลด์ชุดเดิมอย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซโบซไล และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก แทบทั้งฤดูกาล ฉะนั้นเป็นเวลาที่ทั้งสามคนจะได้พักบ้าง 

วาตารุ เอ็นโด ซึ่งมักจะทำหน้าที่เป็นตัว “ปิดเกม” ในช่วงที่ผ่านมา น่าจะได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริง เช่นเดียวกับ เคอร์ติส โจนส์ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เพราะพวกเขาต้องการพิสูจน์ว่ามีศักยภาพที่จะอยู่ในแผงการป้องกันแชมป์ของโค้ชอาร์เน่อ 

สิ่งที่แฟนบอลหงส์แดงยังคงอยากเห็นก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยืนเป็นตัวจริง เพราะพวกเขาต้องการลุ้นให้ “คิงโม” สร้างสถิติหลังตอนนี้ตะบันไปแล้ว 28 ประตูในเกมลีก และต้องการอีก 5 ประตูก็จะทำลายสถิติที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำได้นั่นคือ 32 ลูก เมื่อซีซั่น 2017/2018

แม้โอกาสที่จะทำแบบนั้นอาจจะยากไปซะหน่อย เพราะตอนนี้ทีมไม่ได้มีแรงกระตุ้นที่จะเปิดเกมรุกแบบดุดันอีกแล้ว แต่เรื่องแพสชั่นที่มีอยู่ในตัวของ ซาลาห์ เชื่อว่าเขายังคงมุ่งมั่นที่จะยิงประตูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

5. นูนเญซ, เคียซ่า ตัวจริง

ดาร์วิน นูนเญซ คาดหวังจะได้ลงสนามมากขึ้นเพราะนี่อาจจะเป็นซีซั่นสุดท้ายของนักเตะ หลังมีรายงานว่าเขาเตรียมอำลาถิ่นแอนฟิลด์ในช่วงซัมเมอร์นี้ ฉะนั้น อาร์เน่อ อาจจะมอบของขวัญสุดพิเศษให้เจ้าตัวด้วยการลงเป็นตัวจริงในช่วง 4 เกมที่เหลืออยู่

สำหรับอีก 1 แข้งที่สาวก “เดอะ ค็อป” อยากเห็นเขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมลีกมากๆ นั่นก็คือ เฟเดริโก้ เคียซ่า เพื่อจะได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของนักเตะ และเป็นการเพิ่มโปรแกรมลงสนามสำหรับการได้เหรียญแชมป์ด้วย

แม้ นูนเญซ และ เคียซ่า มักจะลงเล่นเป็นตัวสำรอง แต่ทุกครั้งที่พวกเขาลงสนาม สามารถช่วยพลิกสถานการณ์ให้ทีมได้หลายครั้ง ดังนั้นมันจึงเป็นการดีที่จะตอบแทนความมุ่งมั่นของพวกเขาด้วยการลงเป็นตัวจริง 

TOMMY T.

,

บริการ

tag:
กีฬาต่างประเทศ ข่าวกีฬา ตลาดนักเตะ ตารางบอล ตารางบอลวันนี้ ทีมชาติไทย นิวคาสเซิ่ล บอลวันนี้ บาร์เซโลน่า บาเยิร์น มิวนิค บุนเดสลีกา บ้านผลบอล ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ปีศาจแดง ผลบอล ผลบอลเมื่อคืน ผีแดง พรีเมียร์ พรีเมียร์ลีก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฟุตบอลต่างประเทศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยูโรปา ลีก รูเบน อโมริม ลาลีกา ลาลีกา สเปน ลิเวอร์พูล วิเคราะห์บอล สเปอร์ส หงส์แดง อาร์เซน่อล อาร์เน่อ สล็อต เชลซี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปแอสเช เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เรอัล มาดริด แมนซิตี้ แมนยู แมนยูไนเต็ด แมนฯ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โปรแกรมบอล โปรแกรมบอลวันนี้