เชลซี พบ ลิเวอร์พูล: 5 ประเด็นหงส์แดงพ่ายสิงห์บลูส์

สารบัญ

1. แถวเกียรติยศวัฒนธรรมที่งดงาม

ก่อนเกมฟาดแข้งมีประเด็นให้ถกเถียงกันว่าการตั้งแถวเกียรติยศควรจะมีต่อไปหรือไม่ เพราะมีหลายคนที่มองว่าเป็นวัฒนธรรมที่ล้าสมัย และไม่มีความจำเป็น แต่ท้ายที่สุด เชลซี ยังคงยึดมั่นสิ่งนี้และเลือกที่จะยืนปรบมือต้อนรับแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ 

เชลซี พบ ลิเวอร์พูล! มาเรสก้า ดี๊ด๊าแข้งสิงห์บลูส์ไว้ลายสยบแชมป์ป้ายแดง
เชลซี พบ ลิเวอร์พูล! อาร์เน่อ ยันหงส์ไม่ทิ้งเกม-รับสิงห์บลูส์แกร่งจริง
เชลซี พบ ลิเวอร์พูล: ฟอร์มรั่วยกทีม! ตัดเกรดแข้งหงส์โดนสิงห์ขย้ำ

ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ ปีเตอร์ เคร้าช์ แสดงความเห็นว่าการตั้งแถวเกียรติยศเพื่อปรบมือให้เกียรติแชมป์ลีกควรจะยกเลิกได้แล้ว เพราะมันทั้งล้าสมัย และเปรียบเสมือนการบังคับให้ทีมคู่แข่งต้องฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ

ขณะที่ รอย คีน ออกโรงสวนกลับเพราะมองว่านี่คือวัฒนธรรมที่งดงาม และยังทิ้งประโยคเด็ดว่าการจะได้รับความเคารพ ต้องรู้จักให้ความเคารพผู้อื่น ดังนั้น “คีโน่” ยกมือสุดตัวสนับสนุนการยืนตั้งแถวเกียรติยศปรบมือให้กับทีมแชมป์ 

สำหรับเรื่องนี้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เห็นด้วยกับ คีน และยืนยันตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ว่าจะนำลูกทีมปฏิบัติตามวัฒนธรรมที่งดงามนี้ ซึ่งแฟนบอลทั่วโลกก็ได้เห็นกันไปแล้ว ตอนที่บรรดาขุนพล “หงส์แดง” เดินลงไปในสนามก่อนเกมนี้

2. ตัวสำรองได้โอกาสแต่ฟอร์มน่าผิดหวัง

อาร์เน่อ สล็อต เลือกโรเตชั่นทีมค่อนข้างเยอะตั้งแต่แนวรับยันแนวรุก และให้ตัวสำรองได้โอกาสแสดงผลงานอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ ซึ่งถือเป็นการทิ้งโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

“หงส์แดง” ส่ง คอสตาส ซิมิกาส, จาเรลล์ ควอนซาห์, เคอร์ติส โจนส์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, วาตารุ เอ็นโด และ ดีโอโก้ โชต้า ลงสนาม โดยนี่จะเป็นบทพิสูจน์ว่าผู้เล่นเหล่านี้มีดีพอที่จะอยู่ในแผนการสร้างทีมของโค้ชอาร์เน่อ ในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหรือไม่ 

ต้องยอมรับว่าฟอร์มของนักเตะเหล่านี้ไม่ค่อยน่าประทับใจซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะ ซิมิกาส กับ ควอนซาห์ ผลงานน่าผิดหวังมากๆ และประตูที่ทีมเสียไปทั้ง 3 ลูกนักเตะทั้งสองคนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

สำหรับ เอลเลียตต์ กับ โจนส์ น่าจะเหมาะเป็นเพียงยางอะไหล่มากกว่าตัวจริง ส่วน โชต้า ฟอร์มไม่เหมือนเดิมอีกแล้วหลังหายเจ็บกลับมา ฉะนั้นมีแววสูงมากที่เขาอาจจะโดนปล่อยตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ 

ดังนั้น กุนซือชาวดัตช์ มีงานให้ทำเยอะมากหลังจบซีซั่น เพราะเขาคงต้องหาผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมแกร่งทั้งตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก, ฟูลแบ็กซ้าย-ขวา, กองกลาง และหน้าเป้า 

3. ขับเคี่ยวพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก

เชลซี ต้องการสามคะแนนในเกมนี้อย่างยิ่ง เพื่อโอกาสในการคว้าโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะพื้นที่สำคัญนี้มีการขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะช่วงท้ายซีซั่นถ้าทีมไหนพลาดมีโอกาสหลุดวงโคจรได้เลย

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นมาตลอดแต่ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น พวกเขาดันฟอร์มหลุดหลายเกม และทำให้ทัพ “เจ้าป่า” อันดับร่วงกราวรูดจนตอนนี้หลุดไปอยู่อันดับ 6 แต่แข่งน้อยกว่า 1 แมตช์และอาจพลิกสถานการณ์กลับมาได้ถ้าสามารถเก็บชัยชนะในเกมที่อยู่ในมือ

หลังจากที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” ทุบ “หงส์แดง” คว้าสามคะแนนได้สำเร็จ นั่นทำให้พวกเขาขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายโควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะคะแนนห่างจาก ฟอเรสต์ กับ แอสตัน วิลล่า แค่ 3 คะแนน โดยเหลือโปรแกรมอีก 3 แมตช์ 

สำหรับตอนนี้หากเช็คตารางคะแนน เชลซี รั้งอันดับ 5 มี 60 แต้ม เท่ากับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งรั้งอันดับ 4 ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (64 คะแนน) และ อาร์เซน่อล รั้งอันดับ 2 (67 คะแนน) ส่วน ฟอเรสต์ และ วิลล่า รั้งอันดับ 6 กับ 7 ตามลำดับ (60 คะแนน) ฉะนั้นหากทีมไหนสะดุดมีสิทธิ์อันดับร่วงทันที

 4. ยังมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์

แม้ประเด็นนี้อาจจะไม่ใช่ไฮไลต์แต่ประตูล่าสุดที่ยิงได้ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังคงอยู่บนเส้นทางในการลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรก่อนที่จะจบฤดูกาลนี้

จังหวะโขกบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ทำให้ “หงส์แดง” ยังคงมีลุ้นทำสถิติสำคัญ และถ้าพวกเขาสามารถทำประตูในเกมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ได้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า นั่นจะเป็นครั้งแรกของ ลิเวอร์พูล ที่ซัดประตูเกมเยือนทุกแมตช์ใน 1 ซีซั่น

การได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับ ลิเวอร์พูล แต่การทำในสิ่งที่น่าเหลือเชื่อให้กับสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ย่อมเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งอย่างมาก 

แน่นอนว่าหลายคนคงคิดว่าตอนนี้ อาร์เน่อ แอนด์ โค. ปล่อยจอยไปเรียบร้อยแล้ว หลังได้แชมป์ลีก แต่สถิติที่น่าสนใจในการเยือนถิ่นเอแม็กซ์ สเตเดี้ยม น่าจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ “เดอะ เร้ดส์” ทุ่มสุดตัวเพื่อให้การจบซีซั่นนี้มีความสมบูรณ์แบบ 

5.  ชัยชนะที่เจ้าบ้านรอมานาน

เชลซี มักจะทำผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในการเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาไม่ค่อยได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ และชัยชนะในแมตช์นี้เป็นสิ่งที่สาวก “สิงห์บลูส์” เฝ้ารอมานาน 

เจ้าบ้านได้ผลการแข่งขันแพ้กับเสมอในการปะทะกับ ลิเวอร์พูล ที่ “เดอะ บริดจ์” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และการที่พวกเขาสามารถคว่ำ “หงส์แดง” ได้ในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ มันเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่ได้ชัยชนะต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในสี่ที่แพ้เกมลีกนัดแรกหลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยก่อนหน้านี้ได้แก่ อาร์เซน่อล ฤดูกาล 1997/1998 (พบ ลิเวอร์พูล), เชลซี ฤดูกาล 2005/2006 (พบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส) และ “หงส์แดง” ฤดูกาล 2019/2020 (พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 

TOMMY TEE.

,

บริการ

tag:
กีฬาต่างประเทศ ข่าวกีฬา ตลาดนักเตะ ตารางบอล ตารางบอลวันนี้ ทีมชาติไทย นิวคาสเซิ่ล บอลวันนี้ บาร์เซโลน่า บาเยิร์น มิวนิค บุนเดสลีกา ปีศาจแดง ปืนใหญ่ ผลบอล ผลบอลเมื่อคืน ผีแดง พรีเมียร์ พรีเมียร์ลีก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟุตบอลต่างประเทศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยูโรปา ลีก รูเบน อโมริม ลาลีกา ลาลีกา สเปน ลิเวอร์พูล วิเคราะห์บอล สเปอร์ส หงส์แดง อาร์เซน่อล อาร์เน่อ สล็อต เชลซี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปแอสเช เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เรอัล มาดริด แมนซิตี้ แมนยู แมนยูไนเต็ด แมนฯ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แอสตัน วิลล่า โปรแกรมบอล โปรแกรมบอลวันนี้