– วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส VS ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : ยูฟ่า คัพ 1972
ยูฟ่า คัพ (ปัจจุบันก็คือ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก) ยุคนั้น รอบชิงชนะเลิศ จะเตะกันสองนัดแบบเหย้า-เยือน ซึ่งสุดท้าย “ไก่เดือยทอง” เป็นฝ่ายได้เฮ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-2 โดยนัดแรกบุกไปเชือด “หมาป่า” 2-1 ถึง โมลินิวซ์ ก่อนกลับมาเจ๊า 1-1 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน และนี่คือความสำเร็จในเวทียุโรปครั้งแรกของ สเปอร์ส ด้วย
ผ่านช่วงย่ำแย่แล้ว! อันโตนี่ ปลดปล่อยทุกอย่างนำ เบติส ชิงคอนเฟอเรนซ์ ลีก
โอกาสทอง! ตำนานแมนยู ยกทัพผีคล้าย เรอัล มาดริด เล่นไม่ดีแต่คว้าแชมป์ถ้วยยุโรป
แมนยู ดวล สเปอร์ส ชิงยูโรปา ลีก การันตีอังกฤษมี 6 ทีมลุย UCL ครั้งแรก
นัดแรก
คนทำประตูของ วูลฟ์แฮมป์ตัน : จิม แม็คคัลลิอ็อก นาทีที่ 72
คนทำประตูของ สเปอร์ส : มาร์ติน ชีเวอร์ส นาทีที่ 57 และ 87
นัดสอง
คนทำประตูของ สเปอร์ส : อลัน มัลเลรี นาทีที่ 29
คนทำประตูของ วูลฟ์แฮมป์ตัน : เดฟ แว็กสตาฟฟ์ นาทีที่ 40
———-
– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS เชลซี : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2008
นี่คือครั้งแรกที่ เชลซี เข้าถึงรอบชิงฯ ถ้วยยุโรปใบใหญ่สุด ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แชมป์รายการนี้มาแล้วสองหน และสุดท้ายเป็น “ปีศาจแดง” ที่ได้ครองถ้วย “บิ๊ก เอียร์ส” เป็นสมัยที่สาม ด้วยการชนะดวลจุดโทษ “สิงห์บลูส์” 6-5 หลังจากที่เสมอกัน 1-1 ใน 120 นาที
คนทำประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นาทีที่ 26
คนทำประตูของ เชลซี : แฟร้งค์ แลมพาร์ด นาทีที่ 45
———-
– เชลซี VS อาร์เซน่อล : ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2019
นอกจากมาจากประเทศเดียวกันแล้ว ยังมาจากกรุงลอนดอนเหมือนกันด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ถ้วย ยูโรปา ลีก เลยทีเดียว ที่รอบชิงฯ เป็นการดวลกันของสองทีมจากเมืองเดียวกัน และบทสรุปคือ “สิงห์บลูส์” อัด “ไอ้ปืนใหญ่” 4-1 คว้าแชมป์รายการนี้มาครองเป็นสมัยที่สอง
คนทำประตูของ เชลซี : โอลิวิเยร์ ชิรูด์ นาทีที่ 49, เปโดร นาทีที่ 60, เอแด็น อาซาร์ นาทีที่ 65 (จุดโทษ) และ 72
คนทำประตูของ อาร์เซน่อล : อเล็กซ์ อิโวบี้ นาทีที่ 69
———-
– ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ VS ลิเวอร์พูล : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019
ฤดูกาล 2018/19 ถือเป็นซีซั่นที่ยิ่งใหญ่สุดๆ สำหรับสโมสรอังกฤษ เพราะนอกจากถ้วย ยูโรปา ลีก แล้ว รอบชิงฯ ถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เป็นการดวลกันของสองทีมจากเมืองผู้ดีเช่นกัน และก็เป็นฝั่ง “หงส์แดง” ที่พิชิต “ไก่เดือยทอง” นิ่มๆ 2-0 ครองความเป็นจ้าวยุโรปครั้งที่หก
คนทำประตูของ ลิเวอร์พูล : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (จุดโทษ) นาทีที่ 2, ดีว็อค โอริกี นาทีที่ 87
———-
– แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS เชลซี : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021
นับเป็นหนที่สามสำหรับ เชลซี ที่ต้องเจอกับทีมจากชาติเดียวกันเองในนัดชิงฯ ถ้วยยุโรป ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ นี่คือประสบการณ์ครั้งแรกในนัดชิงดำถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก และจบลงด้วยความผิดหวัง เพราะ “สิงห์บลูส์” เป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 1-0 คว้าชัยรายการนี้มาครองเป็นสมัยที่สอง
คนทำประตูของ เชลซี : ไค ฮาแวร์ตซ์ นาทีที่ 42
Subinho
,