การจากไปของ “รองเทรนต์” ทำให้เหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” เสียใจมากๆ แต่ก็เข้าใจวิถีแห่งฟุตบอลว่ามีพบต้องมีจาก และสิ่งที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทุ่มเทให้กับ “หงส์แดง” ในฐานะเด็กท้องถิ่นมันยิ่งใหญ่มากๆ
อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ประสบความสำเร็จทุกอย่างกับ ลิเวอร์พูล และถึงเวลาที่นักเตะต้องการออกไปหาความท้าทายใหม่ในชีวิต ซึ่ง เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่สามารถเติมเต็มความฝันของเขาทั้งเรื่องโทรฟี่แชมป์ และรางวัลส่วนตัวอย่าง บัลลงดอร์
เหตุแพ้นัดชิงUCL 2008: มาเกเลเล่ แฉ เทอร์รี่ ขอยิงจุดโทษหวังเป็นฮีโร่
เปแอสเช พบ อาร์เซน่อล! แฟนปืนหัวร้อนยูฟ่าตั้งเปาฉาวเป่านกหวีด
นักข่าวยัน ฟริมปง สนซบ ลิเวอร์พูล! เผยค่าฉีกสัญญาน่าลุ้นควักจ่าย
ขณะที่ ลิเวอร์พูล ต้องเดินหน้าต่อไปและเตรียมความพร้อมสำหรับการไม่มี ฟูลแบ็กเท้าชั่งทองชาวอังกฤษ อยู่ในทีม โดยสิ่งแรกที่ โค้ชอาร์เน่อ ต้องรีบทำนั่นก็คือการสรรหารองกัปตันทีมคนใหม่ เพื่อเป็นผู้นำทัพในยามที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ไม่ได้ลงสนาม
สำหรับกรณีนี้ กุนซือชาวดัตช์ อาจใช้วิธีเดิมแบบ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั่นก็คือเลือกและตัดสินใจด้วยตัวเอง หรือจะใช้แนวทางแบบประชาธิปไตยด้วยการโหวตว่าใครเหมาะสม แต่ไม่ว่าจะวิธีไหน ตอนนี้ดูเหมือนจะมี 5 รายที่น่าจะเหมาะสมที่จะสวมปลอกแขนท่านรองในฤดูกาลหน้า
1. โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ผลงานซัดไป 33 ประตูกับ 23 แอสซิสต์จากการเล่นในทุกรายการฤดูกาลนี้ ไม่มีอะไรต้องสงสัยว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นนักเตะที่สำคัญมากสำหรับ ลิเวอร์พูล ในการมีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
จะว่าไปแล้ว “คิงโม” เป็นนักเตะที่มีความสำคัญมาตลอดนับตั้งแต่ที่ย้ายจาก โรม่า มาเล่นในแอนฟิลด์ เมื่อปี 2017 โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสนาม ซาลาห์ คือผู้เล่นที่นักเตะ “เดอะ เร้ดส์” มักจะมองหาเวลาที่ต้องการทำประตู
ฟอร์มตะบัน 28 ประตูกับ 18 แอสซิสต์ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีซีซั่นนี้ เป็นการการันตีได้อย่างชัดเจนว่า “บังโม” คือหนึ่งในคีย์แมนที่นำ ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์ลีกทั้งๆ ที่ยังเหลือโปรแกรมให้ลงสนามอีก 4 แมตช์
แน่นอนว่าเขามีความเป็นผู้นำทั้งในห้องแต่งตัว “หงส์แดง” และยังเป็นกัปตันทีมชาติอียิปต์ด้วย ดังนั้นทั้งวัยวุฒิและประสบการณ์ถือว่าเพรียบพร้อมสำหรับการรับบทบาทท่านรอง
ขณะเดียวกันด้วยพฤติกรรมของ ซาลาห์ ทั้งในและนอกสนาม ยังมีประโยชน์อย่างมากกับบรรดานักเตะดาวรุ่ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเรียนรู้ด้วยการดูนักเตะรุ่นพี่มากกว่าการฟัง ดังนั้นนี่คือแรงบันดาลใจชั้นดีให้ผู้เล่นวัยกระเต๊าะอยากเดินตามรอยเท้า
2. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
หากมองถึงอนาคตของสโมสร อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับ โค้ชอาร์เน่อ ในการแต่งตั้งให้สวมปลอกแขนรองกัปตันทีมเนื่องจากจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบทบาทกัปตันทีมเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อ ฟาน ไดค์ ตัดสินใจยุติบทบาทกับ “หงส์แดง”
กองกลางแชมป์โลก เป็นหนึ่งในนักเตะคีย์แมนที่อยู่ในกลุ่มผู้นำของ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2024/2025 ซึ่ง สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำทีมมาแล้วในสายตาของ กุนซือชาวดัตช์ ว่าน่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมในอนาคต
ดาวเตะวัย 26 ปี เต็มไปด้วยประสบการณ์ชั้นยอดทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ซึ่งเขามักจะนำสิ่งเหล่านี้ออกมาใช้เวลาที่ต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบากในสนาม โดย แม็ค อัลลิสเตอร์ มีสัญชาตญาณความเป็นผู้นำทั้งในเรื่องการกระทำและทัศนคติ
แม้ว่าบุคลิกของนักเตะค่อนข้างจะเงียบขรึมและดูขี้อาย แต่ แม็ค อัลลิสเตอร์ จะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนทันทีเมื่อเขาก้าวลงไปในสนาม และเต็มไปด้วยความดุดันทั้งอารมณ์และสไตล์การเล่น ฉะนั้นทั้งหมดนี้จึงทำให้เจ้าตัวเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับบทบาทรองกัปตันทีม “หงส์แดง”
3. อิบราฮิม่า โกนาเต้
เชื่อว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลหลายคนคงสงสัยเรื่องอนาคตของ อิบราฮิม่า โกนาเต้ เนื่องจากนักเตะจะหมดสัญญากับสโมสรช่วงซัมเมอร์ปี 2026 และการขยายสัญญายังไม่มีความคืบหน้า
เรอัล มาดริด และ ปรีส แซงต์-แชร์กแมง แสดงออกอย่างชัดเจนว่าอยากได้ตัว โกนาเต้ ไปใช้บริหาร ขณะที่ เซนเตอร์แบ็กชาวฝรั่งเศส ยังไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะฝากอนาคตเอาไว้ในถิ่นแอนฟิลด์ด้วย
อย่างไรก็ตาม สโมสรพยายามอย่างเต็มทีที่จะเก็บ โกนาเต้ เอาไว้ และหากทำสำเร็จ มีความเป็นไปได้สูงที่ ปราการหลังวัย 25 ปีจะมีโอกาสที่จะได้รับบทบาทรองกัปตันทีมในยุคที่โค้ชอาร์เน่อ กุมบังเหียน
การที่ โกนาเต้ คลุกคลีตีโมงอยู่กับ ฟาน ไดค์ มาตลอดเพราะเล่นร่วมกัน นั่นทำให้เขาได้ซึมซับบทบาทความเป็นผู้นำจากพี่ใหญ่ และมีความเป็นไปได้นว่าเขาน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในระยะยาวสำหรับการเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูล
โกนาเต้ ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่เป็นที่รักของทุกๆ คนในห้องแต่งตัว และเขาก็เคยได้สวมปลอกแขนผู้นำทีมชาติฝรั่งเศสมาแล้ว ดังนั้นนี่คือกองหลังที่มีประสบการณ์ ซึ่งถือว่าเป็นออปชั่นที่ดีในฐานะผู้นำของสโมสร
4. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
ถ้าพูดถึงนักเตะที่เต็มไปด้วยความทุ่มเทและมีอารมณ์ร่วมกับทีมทุกวินาทีทั้งในและนอกสนาม ต้องยกให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และบรรดาสาวก “เดอะ ค็อป” ชื่นชอบแพสชั่นของนักเตะที่พร้อมสู้ถวายชีวิตเพื่อทีม
จากนักเตะโนเนมค่าตัวแสนถูกที่ คล็อปป์ ดึงตัวมาจาก ฮัลล์ ซิตี้ เพื่อเป็นยางอะไหล่ให้กับ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ แต่กลายเป็นว่าเขาใช้ความพยายามและสู้ไม่ถอยจนก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลัก และเป็นหนึ่งในคีย์แมนที่นำทีมประสบความสำเร็จมากมาย
“ร็อบโบ” อาจไม่ใช่นักเตะที่มีฟอร์มระดับโลก แต่เรื่องหัวใจไม่เป็นสองรองใคร และพร้อมที่จะทุ่มเททุกวินาทีให้กับ ลิเวอร์พูล เมื่อได้ลงสนาม โดยผลงานของเขาเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่านี่คือแบ็กซ้ายทีมทีมขาดไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ผลงานของ โรเบิร์ตสัน ในฤดูกาลนี้ไม่คงเส้นคงวา และมีบางเกมที่นักเตะโดนดร็อปเพราะฟอร์มตกอย่างรุนแรง ที่สำคัญมีรายงานว่าทีมกำลังมองหา แบ็กซ้ายคนใหม่ นั่นทำให้ สตาร์ชาวสกอตแลนด์ มีแววที่จะไม่ได้เป็นตัวหลักของทีม
ดังนั้นบทบาทรองกัปตันทีมสำหรับ โรเบิร์ตสัน อาจจะไม่เหมาะแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับ อาร์เน่อ เพราะนักเตะยังคงมีอิทธิพลกับทีม และยังสามารถเป็นต้นแบบที่ดีให้กับพวกดาวรุ่งได้
5. อลีสซง เบ็คเกอร์
หนึ่งในนักเตะยุคสร้างความยิ่งใหญ่ของ คล็อปป์ อย่าง อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูชาวบราซิเลียน ถือเป็นผู้เล่นที่มีทั้งประสบการณ์และวัยวุฒิในการรับบทบาทรองกัปตันทีมได้
บทบาทของ อาลี เวลาที่ยืนเฝ้าเสาไม่ใช่แค่โกลที่รอเวลาเซฟเท่านั้น แต่เขามักจะมีส่วนในการสร้างเกมบุกให้ทีมทั้งการออกมาต่อบอล และการเปิดบอลเร็ว นอกจากนี้ยังคอยตะโกนสั่งการเพื่อนร่วมทีมเวลาที่คู่แข่งกำลังขึ้นเกมรุก
“พ่อหมี” มีความเป็นผู้นำในตัวเองสูงมาก หลายครั้งที่เขามักจะตะโกนสั่ง ฟาน ไดค์ เพื่อให้บอกเพื่อนร่วมทีมว่าต้องทำอะไร ขณะเดียวกัน อลีสซง ยังมักจะเป็นคนที่คอยกระตุ้นแข้ง “หงส์แดง” ในทุกๆ สถานการณ์ เพื่อให้เพื่อนๆ ตื่นตัวอยู่เสมอ
บทบาทนอกสนามเจ้าตัวก็มีความเป็นแฟมิลี่แมน และยังเป็นชาวคริสเตียนที่เคร่งครัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนร่วมทีม และนักเตะดาวรุ่ง ในการประพฤติตัวไม่ออกนอกลู่นอกทาง จนทำให้อาชีพนักเตะต้องมีปัญหาในอนาคต
TOMMY TEE.
,
