1. ยูโรปา ลีก คือรายการที่ “ถ้าไม่ได้ กูตุยเย่”
เพราะนอกจากเป็นถ้วยเดียวที่มีลุ้นแชมป์แล้ว ยังเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะได้ไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่มีมูลค่า 100 ล้านปอนด์
แมนซิตี้ พบ วูล์ฟส์ : ขอบคุณจากใจ! เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชู เควิน เดอ บรอยน์ พาเรือคว้าชัย
เคียซ่าลุ้นตัวจริง! อาร์เน่อ รับโรเตชั่นหลัง ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีก
เหนื่อย! เป๊ป ยันหมดสัญญา แมนซิตี้ ขอพักสมองก่อน
ขณะที่ในพรีเมียร์ลีก ยังไงก็ไต่อันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปไม่ได้
ส่วนเรื่องตกชั้นก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว
นักเตะพันธุ์อสูรจึงทุ่มเทเต็ม 80,000 ตีนถีบ แถมมุ่งมั่นมากกว่าปกติ
2. แมนยูไนเต็ด คือทีมที่ธาตุไฟแตกง่ายเวลาโดนนำก่อน
กลับกัน หากเป็นฝ่ายขึ้นนำได้ก่อน มักจะเล่นกันอย่างมั่นอกมั่นใจ
ปีศาจแดง ขึ้นนำคู่แข่งได้ถึง 11 นัด จากทั้งหมด 13 นัดที่ผ่านมา และยังคงไม่แพ้ใครในถ้วยเล็กยุโรป
ผิดกับในพรีเมียร์ลีก เพราะ 34 นัดที่ผ่านมา มีถึง 21 นัดที่ทะลึ่งโดนนำก่อน แล้วเวลาเสียประตูก็มักจะไม่มีปัญญาแซงกลับมา แถมยังมีอีก 3 เกมที่ทำได้แค่เสมอ 0-0 ด้วย
3. บรูโน่ แฟร์นันด์ส มักระเบิดฟอร์มการเล่นอันเปล่งปลั่งอย่างน่าสยดสยองได้เสมอ ยามลงไปสับตีนในเวทียุโรป
เขาคือนักเตะที่มีส่วนกับประตูโดยตรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ยูโรปา ลีก ด้วยผลงาน 27 ประตู กับอีก 18 แอสซิสต์
8 นัดล่าสุดในทุกรายการที่ ‘ไอ้หนวด’ ลงสนาม พี่เขายิง หรือแอสซิสต์ในลีกไม่ได้เลย !!!
ทว่า 4 นัดหลังสุดใน ยูโรปา ลีก ถ้าไม่กะซวกตาข่ายก็จ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ตลอด แถมกดแฮตทริกในเกมอัด เรอัล โซเซียดาด
ล่าสุดเหมาคนเดียว 2 ดอก พาทีมบุกต้อน แอธเลติก บิลเบา 3-0 ถึง ซาน มาเมส
คิดเอา !!!
4. ชัดเจนว่าวิธีเล่นของคู่แข่งในเวทียุโรปไม่เข้าบดบี้อย่างรวดเร็ว หนักหน่วง และบีบสูงเท่ากับคู่ต่อสู้ในพรีเมียร์ลีก
ลูกทีมของ รูเบน อโมริม จึงที่เอาตัวรอดไม่เก่งจึงมีเวลาหายใจหายคอ แถมหาโอกาสทะลวงประตูได้มากกว่าในลีกอย่างคมชัด
5. ต้องยอมรับตามตรงว่ามาตรฐานของทีมที่เข้าร่วมศึก ยูโรปา ลีก และฤดูกาลนี้ไม่ค่อยจะสูงสักเท่าไหร่
ไม่มีทีมใหญ่ๆ จาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ร่วงหล่นลงมาเป็น ‘ก-ข-ค’ ในรอบน็อคเอาท์เหมือนในอดีต แถมเจ้าพ่อถ้วยนี้อย่าง เซบีย่า ก็ไม่ได้มาซะด้วย
การลุ้นแชมป์ ยูโรปา ลีก จึงกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าลุ้นติดท็อปไฟฟ์พรีเมียร์ลีก ด้วยประการฉะนี้ ฮรี่ๆๆๆ
,
