เบื้องหลัง เทรนต์ ลา ลิเวอร์พูล กับเหตุผลที่ต้องบอกตอนนี้

สารบัญ

ด้วยความเคารพต่อ ลิเวอร์พูล และจากความจริงที่ว่าสัญญากับ เรอัล มาดริด ยังไม่ได้ลงนามทางการ เทรนต์ จึงยังไม่ประกาศจุดหมายปลายของตัวเอง 

แต่ก็อย่างที่ทุกคนในโลกฟุตบอลทราบดี ว่าเขาเตรียมไปเป็นนักเตะใหม่ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลหน้า

เด็กหงส์จะบ่นทำไม? ส่อง ลิเวอร์พูล หลังคว้าแชมป์แล้ว
จะเอายังไงต่อ! 5 สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ควรทำหลัง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลาทีม
เชลซี หวงจัด! จ่อจับ มอยเซส ไกเซโด้ ขยายสัญญาเพิ่ม

ตั้งแต่เข้าร่วมอะคาเดมี่ตอนอายุ 6 ขวบ เขาได้ใช้ชีวิตตามความฝัน ลงเล่นไปมากกว่า 350 นัด คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก, พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลก 

และอีกเวลาหนึ่งเดือนเศษ ก็ถึงเวลาต้องบอกลา เป็นการสิ้นสุดเส้นทาง 20 ปีที่เขามีกับ ลิเวอร์พูล 

The Athletic ได้พูดคุยกับแหล่งข่าวหลายรายที่ใกล้ชิดกับสถานการณ์ของ เทรนต์ โดยพวกเขาไม่ได้เอ่ยนามเพื่อตอบคำถามสำคัญเกี่ยวกับการตัดสินใจอำลาครั้งนี้

คำถามที่เกิดขึ้นคือ 

1. ลิเวอร์พูล และ FSG ปล่อยให้นักเตะที่มีมูลค่าที่สุดหลุดมือไปแบบไร้ค่าตัวตอนวัยกำลังพีคได้อย่างไร? 

2. การโน้มน้าวของ เรอัล มาดริด เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? 

และ สุดท้าย ทำไมเขาจึงตัดสินใจออกจากทีมไป?

….

เรื่องของเรื่องคือ ตอนฤดูร้อนปี 2023 กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญ เพราะเป็นครั้งแรกในอาชีพของ เทรนต์ ที่สัญญาเข้าสู่ช่วงสองปีสุดท้ายกับสโมสร

ก่อนหน้านั้นเขาต่อสัญญาใหม่มาแล้วในเดือนกรกฎาคม 2017, มกราคม 2019 และกรกฎาคม 2021 โดย ลิเวอร์พูล มักจะตอบแทนฝีเท้าและบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ เทรนต์ ด้วยการปรับสัญญาให้ดีขึ้น

เมื่อเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองกัปตันทีมโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ หลัง เจมส์ มิลเนอร์ ย้ายออกไป เขาก็คาดว่า ลิเวอร์พูล จะเริ่มเปิดโต๊ะเจรจาสัญญาใหม่ก่อนเปิดฤดูกาล 2023/24 

แต่ปรากฏว่า เรื่องนั้นไม่ได้เกิดขึ้น…

ระหว่างช่วงเวลานั้น มีความวุ่นวายเกิดขึ้นมากมายที่ แอนฟิลด์ จูเลี่ยน วอร์ด ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาเพียงหนึ่งปีหลังจากรับช่วงต่อจาก ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ 

สโมสรไม่สามารถหาผู้สืบทอดตำแหน่งถาวรได้ จึงแต่งตั้ง ยอร์ก ชมัคเค่อ ผู้อำนวยการชาวเยอรมัน ที่รีไทร์ไปแล้ว มารับงานแบบชั่วคราวตามคำแนะนำของ มาร์ค โคซิคเก้ ที่ปรึกษา คล็อปป์

ชมัตเค่อ เรียกตัวเองว่า “ผู้ช่วยของ คล็อปป์” โดยเน้นไปที่การเจรจาซื้อขายนักเตะเป็นหลัก ในขณะที่การต่อสัญญาถูกเลื่อนลำดับความสำคัญออกไป

จากนั้นเดือนพฤศจิกายน 2023 สถานการณ์ก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อ คล็อปป์ แจ้งกับ ไมค์ กอร์ดอน ประธาน FSG ว่าเขาหมดไฟในการทำงานและจะอำลาทีมหลังจบฤดูกาล 2023/24

เมื่อ คล็อปป์ ประกาศข่าวต่อสาธารณชนในอีกสองเดือนถัดมา ทุกอย่างก็หยุดนิ่งจนกว่าสโมสรจะกำหนดทิศทางใหม่ได้ชัดเจน 

บรรดาผู้เล่นไม่มีใครพร้อมจะต่อสัญญาโดยไม่รู้ว่าใครจะเป็นกุนซือคนต่อไป และตนเองจะมีบทบาทอย่างไรในแผนการทำทีมของโค้ชคนใหม่

กอร์ดอน เองก็ต้องการลดบทบาท เขาจึงโน้มน้าวให้ เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมาอีกครั้ง พร้อมตำแหน่งใหม่คือ CEO ฝ่ายฟุตบอลของ FSG ในเดือนมีนาคม 2024 และงานแรกของเขาคือดึงตัว ฮิวจ์ส จาก บอร์นมัธ มานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการกีฬา

แม้ภารกิจแรกของ ฮิวจ์ส คือการหากุนซือใหม่ และได้ อาร์เน่อ จาก เฟเยนูร์ด เข้ามารับตำแหน่ง แต่ในความเป็นจริง การทำงานครั้งแรกของเขา เป็นการโทรหา เทรนต์ เพื่อแนะนำตัว และปลายเดือนเมษายนปีนั้น การเจรจาสัญญาใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น พร้อมข้อเสนอเบื้องต้นที่ถูกยื่นให้ก่อนสิ้นเดือน

เทรนต์ เข้าใจสถานการณ์ว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงใช้เวลานานในการเดินหน้าเรื่องนี้ แต่เมื่อเข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญา เขาก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฤดูกาล 2024/25 อาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายกับ ลิเวอร์พูล…

ขณะเดียวกัน ความสนใจจาก เรอัล มาดริด ก็เริ่มชัดเจนขึ้น เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ลิเวอร์พูล อยากรั้งเขาไว้มากแค่ไหน แต่ข้อสงสัยนั้นก็ลดลงในเดือนถัดมา เมื่อ ฮิวจ์ส ยื่นข้อเสนออันน่าทึ่ง ซึ่งมันจะทำให้เขาเป็นแบ็กขวาที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดใน พรีเมียร์ลีก และเป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่รับเงินมากสุดบนโลกฟุตบอล

อย่างไรก็ตาม ตอนนั้น เขาเริ่มพิจารณาทางเลือกที่จะย้ายไป สเปน แบบอย่างจริงจังแล้ว…

“ผมอยู่ที่สโมสรมานานกว่า 20 ปีแล้ว ผมเคยเซ็นสัญญาต่อเนื่องมา 4-5 ครั้ง และไม่เคยมีครั้งไหนที่เปิดเผยสู่สาธารณะ ครั้งนี้ก็เช่นกัน” เขากล่าวกับนักข่าวหลังเกมที่ ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-0 ตอนเดือนกันยายน

เมื่อถูกถามว่าเขาอยากอยู่ต่อหรือไม่ เขาตอบว่า “ผมอยากเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ (อย่างน้อยที่สุด) แค่นั้นที่ผมจะพูด”

นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในฤดูกาลที่ เทรนต์ หยุดพูดในมิกซ์โซน เขาไม่เปิดเผยอะไรใด ๆ แม้แต่ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ที่มีสิทธิ์ถ่ายทอดสดก็ตาม

เขาเก็บความคิดของตัวเองไว้ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ 

เขาไม่ต้องการเติมเชื้อไฟ แม้ข่าวปลอมต่าง ๆ ลอยเต็มหน้าสื่อก็ตาม

ลึก ๆ ลงไป เทรนต์ กำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต และมันยิ่งยากขึ้นเพราะเขาสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ อาร์เน่อ ได้อย่างรวดเร็ว เขาชื่นชมความละเอียดและการวางแผนของกุนซือดัตช์คนนี้มาก

เทรนต์ มองว่า อาร์เน่อ เป็นอัจฉริยะ และเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์ ที่จะช่วยพัฒนาฝีเท้าของเขาในเรื่องเกมรับให้ดีขึ้นอีกขั้น

“ผมอยากให้คุณวิจารณ์ผมแบบตรง ๆ” เทรนต์ บอกกับ อาร์เน่อ ขณะที่ทั้งคู่วิเคราะห์ฟอร์มการเล่นด้วยกันที่ศูนย์ฝึก เคิร์กบี้ ช่วงต้นฤดูกาล นั่นทำให้เขาเชื่อมั่นว่า หากมี อาร์เน่อ คุมทัพ ลิเวอร์พูล ก็มีสิทธิ์ลุ้นความสำเร็จระดับสูงสุดได้

ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา เรื่องของ เทรนต์ ถูกลดกระแสเรื่องอนาคตได้จากเหตุคล้าย ๆ กันของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แม้ท้ายสุด สองรายหลังจะจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่ไปอีก 2 ปี

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สร้างความเจ็บปวดให้เขาจริง ๆ คือการได้ยินหรือเห็นคำกล่าวหาว่าเขาไม่มีความมุ่งมั่นอีกแล้ว

มีบางคนบอกว่า “หัวใจของ เทรนต์ อยู่ที่ สเปน แล้ว” ซึ่งเรื่องนี้ยิ่งทวีความรุนแรงระหว่างก่อนเกมเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 5 มกราคม

เทรนต์ แสดงออกเชิงตอบโต้ข่าวลือจากสื่อ สเปน ที่อ้างว่าเขาได้ตกลงกับ เรอัล มาดริด ไปแล้ว ด้วยการทำท่าป้องปากพูดระหว่างฉลองประตูในเกมที่ ลิเวอร์พูล ถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-0

กระทั่งเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ลิเวอร์พูล ได้ปฏิเสธข้อเสนออย่างเป็นทางการจาก เรอัล มาดริด ที่ต้องการคว้าตัวในตลาดเดือนมกราคม 

ข้อเสนอนั้นมาโดยไม่มีการทาบทามล่วงหน้า และเกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ตามกฎแล้ว พวกเขาจะสามารถเจรจากับนักเตะได้โดยตรง แหล่งข่าวจาก สเปน เผยว่า มาดริด พร้อมจะจ่ายค่าตัวราว 20 ล้านปอนด์ แทนที่จะรอรับฟรีในช่วงซัมเมอร์ แต่สุดท้ายก็ไม่มีตัวเลขใดถูกหยิบยกมาหารืออย่างเป็นทางการ

เอ็ดเวิร์ดส์ และ ฮิวจส์ ให้คำมั่นว่าจะรักษาทีมไว้ด้วยกันจนจบฤดูกาล และทราบดีว่า เทรนต์ ยังมีความสำคัญอย่างมากต่อทีมของ อาร์เน่อ ที่กำลังลุ้นแชมป์ 4 รายการ

ลิเวอร์พูล ปฏิเสธความสนใจอย่างจริงจังจาก อัล-นาสเซอร์ ทีมจาก ซาอุดีอาระเบีย ที่ต้องการ ดาร์วิน นูนเญซ ไปด้วยเช่นกัน และในวันที่ 18 มกราคม ก็ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เมื่อ เทรนต์ แอสซิสต์ ให้กับ นูนเญซ ยิงประตูในเกมสุดดราม่าที่บุกชนะ เบรนท์ฟอร์ด ในวันเดียวกันกับ อาร์เซนอล ที่ปล่อยให้ แอสตัน วิลล่า ตามตีเสมอทั้งที่นำไปก่อน 2-0 ซึ่งตอนนั้นส่งให้ ลิเวอร์พูล รั้งจ่าฝูงแบบเหนียวแน่น

เทรนต์ เสียใจกับข้อกล่าวหาที่ว่าเขาเป็นผู้ผลักดันให้เกิดข้อเสนอในเดือนธันวาคม 

เขารู้ว่า มาดริด มีปัญหาที่ตำแหน่งแบ็กขวาหลังจาก ดานี่ การ์บาฆาล เจ็บเข่าหนักตั้งแต่เดือนตุลาคม และพยายามเร่งคว้าตัวโดยเร็ว แต่เขาไม่เคยต้องการย้ายทีมกลางฤดูกาล 

เขาเพิ่งรู้ว่ามีข้อเสนอเข้ามาและถูกปฏิเสธไปเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่สื่อ อังกฤษ จะรายงานในคืนวันสิ้นปี ขณะนั้นเขายังอยู่ในช่วงเจรจาสัญญากับ ลิเวอร์พูล และยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองเลยด้วยซ้ำ

เสียงวิจารณ์ต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นในเกมแดงเดือด เขาทำพลาดหลายครั้งและกลายเป็นเป้าระบายอารมณ์ของแฟนบอลซึ่งลงเอยด้วยการเสมอกัน 2-2

เทรนต์ รู้สึกขอบคุณ อาร์เน่อ ที่ออกมาปกป้องต่อหน้าที่สาธารณะและส่วนตัว 

เพียงสามวันต่อมา ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก การได้รับเสียงเชียร์จากแฟนบอลที่เดินทางไปเชียร์ที่กรุงลอนดอน ในเกมลีกคัพรอบรองชนะเลิศเลกแรกกับ สเปอร์ส ช่วยสร้างกำลังต่อเขาได้เอามาก ๆ  

จากนั้นเขาก็ได้เป็นกัปตันทีมในเกม เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะ แอคคริงตัน สแตนลีย์ พร้อมกับทำประตูได้ และได้รับเสียงปรบมือกึกก้องตอนถูกเปลี่ยนออกแล้ว คอนเนอร์ แบร็ดลีย์ ลงมาแทน

เรอัล มาดริด ติดตามสถานการณ์สัญญาของ เทรนต์ มาโดยตลอด และเชื่อมั่นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนแล้วว่าจะสามารถคว้าตัวแข้งรายนี้ได้

พวกเขาเคยเซ็นสัญญานักเตะระดับท็อปแบบฟรี ๆ มาแล้วหลายราย เช่น คีลิยัน เอ็มบัปเป้, ดาวิด อลาบา และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ โดยกระบวนการคว้าตัวมานั้นมีขั้นตอนที่ชัดเจน

ฆูนิ กาลาฟาต หัวหน้าทีมแมวมองมีหน้าที่สร้างความสัมพันธ์กับเป้าหมายและประเมินความเต็มใจของนักเตะในการย้ายทีม ก่อนที่ โฆเซ่ อังเคล ซานเชซ ผู้จัดการทั่วไปจะเข้ามาดูแลการเจรจา โดยการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะต้องได้รับการอนุมัติจาก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร

หลังจาก การ์บาฆาล ได้รับบาดเจ็บ ACL ในเกมพบ บียาร์เรอัล บอร์ดบริหาร มาดริด ก็ตัดสินใจใส่ชื่อ เทรนต์ เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งสำหรับการเสริมแบ็กขวา โดยเฉพาะเมื่อ การ์บาฆาล จะอายุครบ 33 ปีในเดือนมกราคม

แหล่งข่าวใกล้ชิด คาร์โล อันเชล็อตติ บอกกับ The Athletic ว่า “หากไม่มีแบ็กขวา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก” ผู้บริหารระดับสูงของ มาดริด มองว่า ด้วยสถานการณ์ที่ ลิเวอร์พูล นำห่างในลีกและมีแบ็กขวาสำรองอย่าง แบร็ดลีย์ อยู่แล้ว “หงส์แดง” อาจยอมรับค่าตัวดีกว่าจะไปเสียฟรี ๆ ทว่าฝั่ง มาดริด คิดผิด เพราะข้อเสนอนั้นถูกปฏิเสธทันที

เมื่อแน่ใจแล้วว่า ลิเวอร์พูล จะไม่ขายในเดือนมกราคม มาดริด จึงเปลี่ยนเป้าหมายกลับมาเจรจาให้ได้ตัวแบบฟรีเอเย่นต์ พวกเขาอธิบายโครงการด้านกีฬาและการเงินอย่างละเอียด และร้องขอให้ เทรนต์ อย่าต่อสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล

ที่กรุงมาดริด ความมั่นใจในการคว้าตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และในเดือนมีนาคม อันเชล็อตติ และผู้บริหารระดับสูงที่ศูนย์ฝึกวัลเดเบบาส ได้รับการแจ้งจากบอร์ดบริหารว่าดีลนี้แทบจะเรียบร้อยแล้ว

เทรนต์ ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และเขาต้องการบอกกับเฮดโค้ชอาร์เน่อ ด้วยตัวเอง

ช่วงพักเบรกทีมชาติตอนเดือนมีนาคม ระหว่างที่ เทรนต์ กำลังพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บตรงข้อเท้าในนัดเจอ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เลกสอง แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้น เขาเดินทางไปหา อาร์เน่อ ที่ห้องทำงาน ณ ศูนย์ฝึกเคิร์กบี้

เทรนต์ แจ้งกับ อาร์เน่อ ว่า เมื่อสัญญาหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ ตัวเองตัดสินใจแล้วว่าจะอำลาสโมสรที่เขารักมาตั้งแต่เด็ก

เขาอธิบายว่าตอนนี้เส้นทางอาชีพลูกหนัง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องก้าวออกจากเซฟโซน และแสวงหาความท้าทายใหม่

ฝั่งผู้รับฟัง อาร์เน่อ ออกอาการผิดหวัง แต่เขาก็คารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย

“นายเป็นส่วนสำคัญของทีมนี้ มาจบเส้นทางนี้ด้วยความสำเร็จร่วมกันเถอะ” อาร์เน่อ กล่าว

เมื่อได้รับคำยืนยันว่าตัวกุนซือยังคงต้องการใช้งานในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น เทรนต์ จึงตอบกลับไป 

“ความมุ่งมั่นและทัศนคติของผมจะไม่เปลี่ยนไป ผมจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อสโมสรนี้จนถึงวันสุดท้าย”

ช่วงเวลาใกล้เคียงกันในเดือนมีนาคม ตัวแทนของ เทรนต์ ได้แจ้งกับ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ผู้อำนวยการกีฬาอย่างเป็นทางการ ว่าเขาจะไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่

ส่วนของสโมสรเอง ไม่มีใครรู้สึกแปลกใจเท่าไหร่ เพราะการเจรจาสัญญาฉบับใหม่มันหยุดชะงักไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือน โดย เทรนต์ ต้องใช้เวลาสักพักสำหรับการตัดสินใจครั้งสุดท้าย

เขาตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจนกว่า ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เพื่อไม่ให้ทีมเสียสมาธิ

อาร์เน่อ ยังคงเลือกใช้ เทรนต์ เพราะทัศนคติของนักเตะรายนี้ไม่เคยเปลี่ยน และอาร์เน่อ เองก็ไม่อยากตัดนักเตะที่มีความสร้างสรรค์สูงขนาดนี้ออกจากทีม

โค้ชชาวดัตช์ ทราบดีว่า เทรนต์ ทุ่มเทแค่ไหน เขายอมฉีดยาระงับปวดเพื่อลงสนามให้ ลิเวอร์พูล หลังเจ็บกล้ามเนื้อข้างลำตัวจากเกมทีมชาติอังกฤษ กับ ฟินแลนด์ ในเดือนตุลาคม และเมื่อเจ็บข้อเท้าจากเกมกับ เปแอสเช เขาก็ฟื้นตัวก่อนกำหนดด้วยการดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ความรู้สึกระเบิดออกมาเมื่อเขายิงประตูชัยในการคัมแบ็กนัดเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน เขาต้องการแสดงให้เห็นด้วยการกระทำมากกว่าคำพูดว่า เขายังทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อพาทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20

“ปล่อยให้พาดหัวข่าวพูดถึงประตูของเขา ไม่ใช่สถานการณ์เรื่องสัญญา” อาร์เน่อ กล่าวหลังจบเกมที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม 

“มันน่าหัวเราะมาก ถ้ามีใครยังตั้งคำถามถึงความมุ่งมั่นของเขาที่มีต่อสโมสรนี้”

นักเตะท้องถิ่นอย่าง สตีฟ แม็คมานามาน และ ไมเคิล โอเว่น เคยย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไป เรอัล มาดริด เพื่อไขว่คว้าความสำเร็จ แต่กรณีของ เทรนต์ แตกต่างออกไป เขาอำลาในช่วงที่ ลิเวอร์พูล เพิ่งคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้การทำทีมของ อาร์เน่อ

แล้วทำไมต้องไปล่ะ?

เทรนต์ รู้สึกได้ว่าเขาได้ประสบความสำเร็จทุกอย่างกับ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว และในวัย 26 ปี เขามองว่าถึงเวลาที่จะออกไปเผชิญกับอะไรใหม่ ๆ 

ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดว่าอยากเป็นแบ็คขวาคนแรกที่ได้รางวัล บัลลง ดอร์ และเชื่อว่าความท้าทายใหม่ใน สเปน จะช่วยให้ตัวเองปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริง

เขาอยากใช้ชีวิตและค้าแข้งในกรุงมาดริด เขาต้องการพิสูจน์ตัวเองใหม่หมด การปรับตัวจะง่ายขึ้นเพราะมีเพื่อนสนิทอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม อยู่ที่นั่นด้วย

การที่เขาเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์จะทำให้ได้โบนัสเซ็นสัญญาก้อนโต แต่เงินมันไม่ใช่ปัจจัยหลักของเขา หากเป็นเช่นนั้น เขาคงเปิดรับข้อเสนอจากสโมสรทั่วยุโรปตั้งแต่ 1 มกราคมแล้ว หรือแม้แต่รับข้อเสนอจากทีมอื่น ๆ ใน พรีเมียร์ลีก

ท้ายที่สุด ไม่ว่า ลิเวอร์พูล จะเสนอเงินเท่าไร มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้ แม้จะเพิ่มอีก 5 ล้านปอนด์ต่อปีก็ไม่ช่วยให้เขาเปลี่ยนใจ และทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีความขุ่นเคืองหรือบาดหมางใด ๆ เขาให้ความเคารพ ฮิวจส์ ซึ่งรับงานภายใต้สถานการณ์อันซับซ้อนมาและพยายามทำทุกอย่างแล้วเพื่อให้เขาอยู่ต่อ

สำหรับ ลิเวอร์พูล การเจรจาที่ยืดเยื้อไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ไม่ดี แต่สุดท้ายคือ ข้อตกลงมันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะสิ่งที่ เทรนต์ ต้องการคือ -ความท้าทายใหม่- ไม่ใช่ตัวเลข

เทรนต์ ที่ครองสถิติกองหลังแอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก มากที่สุด 64 ครั้งได้มีส่วนร่วมในบรรยากาศฉลองแชมป์หลังเกมเอาชนะ สเปอร์ส ที่ แอนฟิลด์

เขาเดินไปยืนหน้า เดอะ ค็อป พร้อมกางแขนออก แล้วชี้ไปที่หัวใจของตัวเอง แล้วแฟนบอลร้องเพลง “the Scouser in our team” พร้อมเติมความหวังว่า เทรนต์ อาจจะเปลี่ยนใจ 

อย่างไรก็ตาม สำหรับเขา นั่นคือฉากจบที่สมบูรณ์แบบแล้ว

คืนนั้นเอง เทรนต์ ได้พูดคุยกับ จอห์น ดับเบิลยู. เฮนรี่เจ้าของทีม  อย่างอบอุ่น 

“คุณเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมของทีมนี้ และผมขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณมอบให้สโมสรนี้” เฮนรี่ กล่าว 

“แม้จะเสียดายที่ต้องเห็นคุณจากไป แต่ผมขออวยพรให้ในอนาคตคุณโชคดี” 

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง มันเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” นี่คือคำพูดที่ เทรนต์ ตอบกลับไป

ห่างออกไปไม่กี่ถนน ที่หัวมุมถนนไซบิล มีภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดยักษ์ของเขา พร้อมข้อความว่า “ผมเป็นแค่เด็กธรรมดาจาก ลิเวอร์พูล ที่ฝันกลายเป็นจริง” (I’m just a normal lad from Liverpool whose dream has just come true)

เขากล่าวคำนั้นไว้หลังคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงมาดริด ตอนปี 2019 

และตอนนี้ เรื่องราวของเขากำลังจะเริ่มบทใหม่…ที่เมืองหลวงของสเปนอีกครั้ง

HOSSALONSO

,

บริการ

tag:
กีฬาต่างประเทศ ข่าวกีฬา ตลาดนักเตะ ตารางบอล ตารางบอลวันนี้ ทีมชาติไทย นิวคาสเซิ่ล บอลวันนี้ บาร์เซโลน่า บาเยิร์น มิวนิค บุนเดสลีกา บ้านผลบอล ปีศาจแดง ปืนใหญ่ ผลบอล ผลบอลเมื่อคืน ผีแดง พรีเมียร์ พรีเมียร์ลีก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฟุตบอลต่างประเทศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยูโรปา ลีก รูเบน อโมริม ลาลีกา ลาลีกา สเปน ลิเวอร์พูล วิเคราะห์บอล สเปอร์ส หงส์แดง อาร์เซน่อล อาร์เน่อ สล็อต เชลซี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปแอสเช เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เรอัล มาดริด แมนซิตี้ แมนยู แมนยูไนเต็ด แมนฯ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โปรแกรมบอล โปรแกรมบอลวันนี้